แอร์โฮสเตส


ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "flight attendants training" หรือ "แอร์โฮสเตส"

Flight attendant

Sunday, March 30, 2008

แอร์-สจ๊วต Emirates

แอร์-สจ๊วต Emirates
เริ่มจะมองเห็นภาพแล้วนะครับว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของการบินไทยมีลักษณะในการทำงานเป็นอย่างไร และอย่างที่คุณเสรีได้อธิบายว่า ทำไมสายการบินต่างชาติ ถึงได้มุ่งเป้ามารับสมัครคนไทยเข้าไปทำงาน ก็ด้วยเสน่ห์ของคนไทย และการมี Service Mind ที่ดูจะมีมากกว่าถ้าเปรียบเทียบกับชนชาติอื่น ๆ เพราะฉะนั้นเราเริ่มได้เห็นวัฒนธรรมขององค์กรกันบ้างแล้วนะครับว่า สายการบินบ้านเรามีความโดดเด่นในเรื่องใดเป็นพิเศษ

ลำดับต่อไป เราก็คงจะไปเรียนรู้สายการบินอื่น ๆ กันบ้าง เอ๊ะ...จะเหมาะกับเราไหม....ลองมาดูนะครับว่าสายการบินจากดินแดนอาหรับ เขามีการคัดเลือกบุคลากรกันอย่างไรบ้าง ลำดับต่อไปขอเชิญ คุณธัญลักษณ์ ครับ

คุณธัญลักษณ์
กราบสวัสดีท่านประธาน รองศาสตราจารย์จำรอง เงินดี ท่านอาจารย์ ดร.รัชนีวรรณ และวิทยากรทุกท่าน สวัสดีน้องๆที่เข้าร่วมรับฟังทุกๆคนนะคะ ขออนุญาตแทนตัวเองว่าพี่เกด นะคะ

วันนี้จะขอพูดเรื่องของสายการบิน เอมิเรตส์...
มีใครรู้จักสายการบิน เอมิเรตส์ บ้างไหมคะ.....

.......นึกว่าไม่มี จะเดินออกไปก่อนเลย
...ก็พอมีบ้างนะคะ
ที่นี้ ทราบอะไรกันบ้างเกี่ยวกับสายการบินนี้ ???

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อยู่ตรงไหนของโลกคะ...ตะวันออกกลางนะคะ เมืองหลวงชื่อ อาบูดาบี ได้ยินแว่ว ๆ จากทางนี้ สำหรับลูกเรือคนไทยของสายการบินเอมิเรตส์เราจะไป base กันที่เมือง ดูไบ ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจการค้า และการลงทุน
ก่อนอื่น พี่เกดอยากจะพูดถึงคุณสมบัติของผู้สมัครหรือผู้ที่สนใจสมัครก่อนนะคะ เนื่องจากว่าตอนนี้พี่เกดเองก็ทำหน้าที่คัดเลือกลูกเรือ คือทั้งแอร์และสจ๊วด ให้กับทางสายการบินนี้ ถ้าเกิดวันนี้น้อง ๆ มีคำถามก็สามารถถามได้ คราวนี้จะพูดถึงเรื่องทั่ว ๆไปก่อน

คุณสมบัติเป็นอย่างไรคะ???
อย่างแรกเลย.... ได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงนะคะ
แต่ว่าเราจะต้องมั่นใจก่อนนะคะว่า...เราเป็นเพศไหนกันแน่...

อายุขั้นต่ำจะต้อง 21 ปี เนื่องจากว่าเราจะต้องไปอยู่ที่ต่างประเทศ ต้องไป base ที่ดูไบ เพราะฉะนั้นเราต้องบรรลุนิติภาวะแล้วค่ะ

ส่วนเรื่องของการศึกษา
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สาขาอะไรก็ได้ทั้งหมด ถ้าคุณเป็นคนที่มีใจรักบริการอย่างที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวไปแล้ว ซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่มีติดมากับตัวเรา

อันดับที่ 3 เรื่องของความสูง
ต้องกำหนดความสูงด้วย ไม่ว่า แอร์หรือสจ๊วต ทุกสายการบินต้องกำหนดความสูง
ของ เอมิเรตส์ กำหนดความสูงเพียง 158 ซม สำหรับผู้หญิงค่ะ หรือเขย่งเท้าเอื้อมแตะนะคะ ภาษาอังกฤษเราเรียกว่า Arm Reach แตะที่ 2 เมตร 12 เซนติเมตร
เพราะอะไร ทำไมต้องกำหนดความสูงด้วยล่ะ ???

ความสูงตรงนี้คือ ความสูงของที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะในเครื่องบินค่ะ เป็นความสูงที่เราสามารถเอื้อมถึงอุปกรณ์เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร เวลาที่เราเข้าไปคัดเลือก เขาจะทดสอบ Arm Reach ก่อนเลย วัดความสูงก่อน แล้วก็ดูว่าคุณสามารถสัมผัสเส้นแดงของเราที่ 2 เมตร 12 เซนติเมตร ได้ไหม...เพราะฉะนั้น เดี๋ยวหลังจากวันนี้แล้ว ไปซ้อมกันที่บ้านได้นะคะ

ทำอย่างไรล่ะ???

ถอดรองเท้าค่ะ แล้วเขย่งเท้าได้สุดเอื้อมแขนนะคะ ปลายนิ้วเราจะต้องสัมผัสความสูงได้ที่ 2 เมตร 12 เซนติเมตร ปลายนิ้วนะคะ...เน้น...ไม่ใช่ปลายเล็บ

ข้อ 4 ค่ะ ภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
เพราะว่าเอมิเรตส์เป็นสายการบิน International และ Professional เหมือนกับทุก ๆ สายการบินนะคะ เนื่องจากว่า เอมิเรตส์ รับลูกเรือทั่วโลกเลย ประมาณ 100 กว่าสัญชาติ และผู้โดยสารก็หลากหลายสัญชาติมาก ไม่ใช่เฉพาะตะวันออกกลาง ยังมีทั้งยุโรป เอเชีย อินเดีย อะไรต่าง ๆ เยอะไปหมดเลย

..เพราะฉะนั้นภาษากลางที่เราใช้ก็คือภาษาอังกฤษ หรือใครมีความสามารถภาษาอาหรับก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

ทุกคนทำหน้าสงสัย...จะมีได้ไงคะ
ไม่แน่...บางคนก็อาจจะพูดได้ใช่ไหมคะ
แต่อันดับแรกเลยคือ ภาษาอังกฤษต้องอยู่ในเกณฑ์ดี

บางคนถามว่า แล้วเราจะมีเกณฑ์ในการวัดอย่างไรคะ ส่วนใหญ่สายการบินเขาจะขอคะแนนผลสอบ TOEIC ด้วยทุกคนรู้จัก TOEIC ใช่ไหมคะ

แต่ เอมิเรตส์…ไม่ขอคะแนน TOEIC เพราะอะไร ???
เรามีข้อสอบของเราเองค่ะ ซึ่งถ้าเทียบกับ TOEIC แล้วควรจะได้อยู่ในเกณฑ์ 800 คะแนน
ข้อที่ 5 นี่ก็สำคัญ ค่ะ
เรื่องของสุขภาพร่างกายต้องแข็งแรง
สายตาสั้นได้มั้ย ??? ได้ค่ะ แต่ห้ามสวมใส่แว่นตา หรือสามารถทำเลสิก ก็ได้

สำหรับเหล็กดัดฟันที่สมัยนี้กำลังฮิตมาก อาทิตย์หนึ่งมีเจ็ดสี เปลี่ยนสีทุกวันเลย ลูกเรือจะดัดฟันไม่ได้นะคะ สำหรับทุกสายการบินเลย ถ้าเกิดว่าอยากดัดฟันสามารถดัดข้างในได้ ที่ยิ้มออกมาแล้วจะไม่เห็นเหล็กดัด

ก็ประมาณแสนกว่าบาท....ค่ะ

อันดับที่ 6 ต้องสามารถทำงานประจำที่เมืองดูไบ
คือเราจะต้องไป base ที่นู่นเลย ใครที่รู้ว่าตัวเองเป็นคนคิดถึงบ้าน ติดคุณพ่อคุณแม่ อันนี้ต้องคิดดี ๆ นะคะ

อันดับที่ 7 ประสบการณ์
ถ้าเรามีประสบการณ์ทางด้านงานบริการก็จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ อาจจะเป็นงานที่นอกเหนือจากสายการบินก็ได้ จะเป็นโรงแรม ธุรกิจการอื่น ๆ ก็โอเคค่ะ
คราวนี้เรามาดูวิธีการสมัคร

ถ้าเราสนใจจะสมัครต้องทำอย่างไร???

อันดับแรก Internet Online ค่ะ

เข้าไปดูที่ http://www.emiratesairlinesgroup เข้าไปสมัครได้เลย แล้ว attach ไฟล์เอกสารของเราได้ด้วย

อันดับที่ 2 ก็คือ เอมิเรตส์ให้โอกาสสำหรับสถาบันฝึกอบรมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน สามารถสมัครผ่านสถาบันเหล่านี้ได้ เฉพาะสถาบันที่มีสัญญากับเอมิเรตส์อยู่ ซึ่งตอนนี้พี่เกดเองก็ทำให้กับทางสายการบินเอมิเรตส์โดยสมัครผ่านทาง Flying KAS ได้ค่ะ ซึ่งเรามีขั้นตอนการคัดเลือกในเบื้องต้นให้กับทางเอมิเรตส์ด้วย

สรุปแล้ว สมัครได้ถึง 2 ทางค่ะ

ขั้นตอนการคัดเลือกลูกเรือของเอมิเรตส์

รอบแรก คือ Pre-Screening

รอบนี้มีผู้เข้าร่วมคัดเลือกครั้งหนึ่งประมาณ 2,500 คน
ได้เป็นลูกเรือกันกี่คนรู้ไหมค่ะ

...200 300 ???
20 คนค่ะ น้อง ๆ

...โอ้โหกันใหญ่เลย
อย่างแรกที่เราดูคือ เรื่องของ Appearance
สำหรับเอมิเรตส์นั้น ต้อง Balancing Face ไม่ต้องสวย...ไม่ต้องหล่อค่ะ แต่คุณต้องมีโครงหน้า 2 ข้างเท่ากัน หน้าไม่แปลกเป็นใช้ได้ อย่างหูไม่เท่ากัน ตาไม่เท่ากัน ใหญ่ข้างเล็กข้าง หรือโครงหน้าเบี้ยว...อะไรลักษณะนี้ ไม่เอาค่ะ ทางเอมิเรตส์...ค่อนข้างเน้นมาก

อีกเรื่องหนึ่งก็คือในเรื่องของฟัน

นอกจากดัดฟันไม่ได้แล้ว... มีเขี้ยวก็ไม่ได้นะคะ..
ทำอย่างไรดี น้อง ๆ ไปให้ทันตแพทย์ตกแต่งแก้ไขได้ค่ะ สายการบินในเมืองไทยเรา หรือในแถบเอเชียก็รับนะคะมีเขี้ยว น่ารัก คิขุ แต่ว่าทางฝรั่ง หรือตะวันออกกลาง น่ากลัวนะคะ ... แดร็กคูวล่า อันนี้คือเรื่องของวัฒนธรรมด้วย ซึ่งอาจจะมีแนวคิดที่ไม่เหมือนคนไทยหรือเอเชียเรา แล้วก็ต้องฟันสวย ฟันไม่เก ฟันไม่ห่าง

การทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษ
กรรมการจะให้เราทำ Group Discussion หรือ สัมภาษณ์กลุ่ม คือ ให้หัวข้อมาแล้วก็ให้เราไปคุยกันกับเพื่อนในกลุ่ม กรรมการจะเป็นผู้สังเกตการณ์ หรือเป็น Observer

รอบที่ 2 เราเรียกว่า Assessment
รอบนี้กระบวนการจะกินเวลาตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ประกอบไปด้วยสัมภาษณ์กลุ่ม Discussion ทั้งหมด 3 กลุ่ม 3 รอบ แต่ละรอบก็จะตัดลงไปเรื่อย ๆ มี 3 หัวข้อให้คุยกัน แล้วก็จะตัดคนออกไปเรื่อย ๆ

ทีนี้ ... ในวันเดียวกัน ถ้าคุณผ่าน Group Discussion ทั้ง 3 Group ไปแล้ว คุณต้องไปสอบ English Test ที่เราพูดกันไปเมื่อสักครู่นี้ว่า TOEIC เราไม่ใช้ เรามี English Test ของเราเอง English Test ก็จะเป็น Choice ทั้งหมด ก็ทดสอบเรื่อง Vocabulary เรื่องของ Grammar รวมทั้งมี Writing การเขียนเรียงความ ซึ่งจะให้หัวข้อมาค่ะ ให้เราเขียน 200 words เราก็แสดงความสามารถทางการเขียนภาษาอังกฤษของเราไป

วิธีการเขียนเรียงความหรือ Essay คืออะไร ???

ถามว่าดูไวยากรณ์ทั้งหมดเลยไหม ส่วนหนึ่งค่ะ สามารถผิดได้บ้าง แต่อย่าให้น่าเกลียดเกินไป หลัก ๆ ก็คือ จะดูว่าตอบคำถามในหัวข้อที่ให้ไว้หรือเปล่า บางคนเขียนเป็นหน้าเลย แต่ไม่ได้ตอบคำถามที่ให้มาเลย....นั่นแปลว่าคุณยังไม่เข้าใจคำถามที่ให้มา

การจะผ่านหรือไม่ผ่านด่านภาษาอังกฤษนี้ จะต้องผ่านทั้งตัว Choice และก็ตัว Writhing นะคะ Writhing มีแค่ Fall กับ Pass เท่านั้น แต่ว่าตัว Choice มีคะแนน 40 ระดับของคนไทยจะกำหนดอยู่ที่ 30 คะแนน ผ่าน แต่ที่สิงคโปร์กำหนดที่ 34 คะแนน เนื่องจากเขาเป็นประเทศ Native English Speaker

รอบทดสอบภาษาอังกฤษนี้ จะมีการคัดผู้สมัครออกไปอีกครั้งหนึ่งค่ะ

สำหรับคนที่ผ่านรอบทดสอบภาษาอังกฤษแล้ว ก็จะต้องทำข้อสอบทางจิตวิทยาค่ะ เป็น Personality Test ซึ่งทางเอมิเรตส์จะใช้ 16 PF ทำให้สามารถรู้ได้เลยว่า ผู้สมัครเป็นคนที่มีบุคลิกภาพอย่างไร ตามที่คุณเสรีได้บอกไปว่า Personality Type ของคนเรามี 6 แบบ ก็จะดูที่ว่าคุณมี Type แบบไหน จะได้เข้าไปในรอบที่ 3 ค่ะ

รอบที่ 3 สัมภาษณ์รายบุคคล หรือ Final Interview

รอบนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อคน กรรมการจะถามอะไรบ้างอยากทราบไหมค่ะ ???

มันจะสืบเนื่องมาจาก Personality Test ค่ะว่า คุณเป็นอย่างไร พอคุณสอบเสร็จปุ๊บ...กรรมการจะแฟกซ์ใบคำตอบของคุณไปที่สำนักงาน...เพื่อตรวจให้คะแนน

เมื่อผลสอบของคุณออกมา สมมุติว่า...ผลออกมาแปลความหมายได้ว่า คุณเป็นคนที่ Dependent มาก

ทาง เอมิเรตส์ จะมีนักจิตวิทยามาสัมภาษณ์คุณในรอบ Final Interview เพื่อเจาะคุณในเรื่อง Dependency ว่าคุณเป็นแบบนั้น จริงหรือเปล่า ถ้าเป็นคน Dependent เป็นไงคะ

ดีหรือไม่ดี...

ไม่ดี...ใช่ไหมคะ

เพราะอะไรคะ???

เพระว่าเราต้องไปประจำที่ดูไบ อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีพ่อแม่พี่น้อง หรือเพื่อนฝูงใกล้ชิด

หากเราเป็นคนที่ Dependent เราก็อาจจะไม่มีความสุขในการทำงาน อาจจะเหงา คิดถึงบ้าน อย่างนี้เป็นต้น ของสายการบินอื่นจะเป็นแบบ Attitude Test จะดูเรื่อง Personality ก็คล้าย ๆ กันค่ะ

ทีนี้...พอผ่านด่านนี้ไปนะคะ จะมีการส่งเอกสารของเราไปที่สำนักงานใหญ่ที่ดูไบค่ะ ให้เขาดูหน้าตาซึ่งรอบนี้จะไม่ค่อยมีปัญหา นอกจากคุณมีปัญหาเรื่องประวัติอาชญากรรม

รอบที่ 4 ตรวจร่างกาย หรือ Medical Check up
เมื่อเราผ่านการสัมภาษณ์เข้าไปแล้วเราก็จะต้องไปตรวจร่างกาย เขาก็จะให้สลิปมายืดยาวเลย 9 แผ่น 9 หน้า ว่าให้เราไปตรวจอะไรบ้าง เขาจะกำหนดมาให้ค่ะ และก็มีการฉีดวัคซีน อย่างถ้าเรามาจากประเทศที่ยังมีโรคติดต่ออยู่ เขาก็จะกำหนดว่า คุณจะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง ต้องตรวจร่างกายรายละเอียดอย่างไรบ้าง

พอผ่านตรงนี้ได้ ก็ไม่มีปัญหา...
เข้าไปเทรนได้เลย..

และนี้ก็คือขั้นตอนในเรื่องของ การคัดเลือกค่ะ
คงแค่นี้ก่อน...นะคะ

เดี๋ยวเราจะมาเจาะประเด็นอีกทีว่า...
แต่ละขั้นตอนของการคัดเลือก
เขาดูอะไร...
และพิจารณาตรงไหน...
เป็นหลักเกณฑ์...



1 comment:

admin said...

http://tamarindpreed.com/
มะขาม